Monday, October 19, 2009

Arms Control : Outer Space Treaty

การควบคุมอาวุธ : สนธิสัญญาอวกาศ

อนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการห้ามการแข่งขันด้านอาวุธ การแสวงหาความร่วมมือ และการวางกฎเกณฑ์เบื้องต้นของกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อควบคุมอวกาศ สนธิสัญญาอวกาศนี้ ได้รับการยอมรับโดยสมัชชาใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 1966 โดยไม่มีเสียงคัดค้าน และได้มีผลบังคับใช้แก่ชาติที่ลงนามจำนวน 84 ชาติ เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1967 ตรงกับช่วงที่มีการปล่อยยานอวกาศสปุตนิกของสหภาพโซเวียตครั้งแรกผ่านพ้นไปได้หนึ่งทศวรรษ (10 ปี) บทบัญญัติสำคัญ ๆ ของสนธิสัญญาฉบับนี้มีดังนี้ (1) ห้ามนำอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทำลายขนาดใหญ่ชนิดอื่นเข้าไปในวงโคจรหรือบนดวงจันทร์และบนวัตถุในฟากฟ้าอื่น ๆ (2) ห้ามมีฐานทัพและทำการแสดงแสนยานุภาพทางทหารบนดวงจันทร์และบนดาวดวงอื่น (3) การสำรวจและการใช้ประโยชน์ในอวกาศจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ทุกประเทศ (4) ห้ามอ้างอำนาจอธิปไตยในอวกาศ และ (5) สนับสนุนให้มีการร่วมมือในระดับนานาชาติในการสำรวจอวกาศ ในการให้ความช่วยเหลือแก่มนุษย์อวกาศ และยานอวกาศ และในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

ความสำคัญ สนธิสัญญาอวกาศนี้ ใช้เวลาเจรจาและถกแถลงกันในสหประชาชาติและในองค์กรลดกำลังรบต่าง ๆ เกือบ 10 ปี จึงสามารถบรรลุถึงข้อตกลงได้ ซึ่งข้อตกลงนี้ได้จำกัดการแข่งขันทางด้านอาวุธ ในอวกาศและเริ่มสร้างกระบวนการทำให้อวกาศอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติขึ้นมา สนธิสัญญาฉบับนี้ประกอบด้วยหลักการต่าง ๆ ที่ได้นำไปประกาศไว้ในมติ 6 ข้อของสมัชชาใหญ่ในระหว่างปี ค.ศ. 1958 ถึง ค.ศ. 1963 และหลักการที่ประกาศไว้ในปฏิญญาของสมัชชาใหญ่ปี ค.ศ. 1963 ว่าด้วยหลักการทางกฎหมายที่ใช้ควบคุมกิจกรรมของรัฐต่าง ๆ ในการสำรวจและการใช้อวกาศรอบนอก สนธิสัญญาอวกาศในฐานะที่เป็นมาตรการในการควบคุมอาวุธ ไม่ได้ช่วยขัดขวางการใช้อวกาศเพื่อการทหารในปัจจุบันและในอนาคตมากนัก ยกตัวอย่างเช่น สหภาพโซเวียตได้พัฒนาจรวดพิเศษชนิดหนึ่งสามารถนำอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นไปโคจรอยู่ในวงโคจรของโลกได้ นอกจากนี้แล้ว ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ก็กำลังดำเนินการพัฒนายานตรวจสอบทางการทหารเพื่อตรวจจับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระบบป้องกันของกันและกัน และเนื่องจากสนธิสัญญาฉบับนี้มิได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบเอาไว้ด้วย ก็จึงอาจเป็นผลก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันระหว่างมหาอำนาจทางอวกาศ และเป็นการไปกระตุ้นให้แข่งขันกันทางด้านอาวุธในอวกาศมากยิ่งขึ้น

No comments:

Post a Comment